3 เคล็ดลับดื่มกาแฟอย่างไรไม่ให้ร่างพัง

เป็นที่ทราบกันดีว่าคาเฟอีนในกาแฟส่งผลต่างๆ ต่อร่างกาย แต่เพราะความหอมกรุ่นละมุนของมัน ทำให้หลายๆ คนไม่อาจหักห้ามใจจากเครื่องดื่มสุดคลาสสิกอย่างกาแฟได้ ถ้าคุณรักที่จะดื่มกาแฟ เรามี 4 เคล็ดลับดื่มกาแฟไม่ให้ร่างพังมาฝากกัน
1. ไม่ดื่มกาแฟแทนอาหารเช้า เชื่อว่าคอกาแฟหลายคนมักดื่มกาแฟแทนอาหารเช้า ทว่ามันก่ออันตรายอย่างมหันต์ต่อร่างกาย กล่าวคือ
– ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร แม้ในกาแฟจะมีน้ำตาล นมข้น และครีมเทียม ที่ให้พลังงานสูง แต่กลับมีคุณค่าทางโภชนาการไม่มากพอที่จะทดแทนการรับประทานอาหาร 1 มื้อ การไม่รับประทานอาหารเช้าอาจทำให้ขาดสารอาหารจำพวกโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
– ทำให้เป็นโรคทางเดินอาหาร เนื่องจากตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่ท้องว่าง จึงมีกรดในกระเพาะอาหารอยู่มาก การดื่มกาแฟเป็นการเพิ่มกรดในกระเพาะให้มากขึ้นไปอีก อาจทำให้เกิดโรคกระเพาะ โรคลำไส้ และกรดไหลย้อนด้วย
– ทำให้อยากกาแฟมากกว่าเดิม ในตอนเช้าน้ำตาลในเลือดจะต่ำเพราะไม่ได้รับอาหารมาทั้งคืน การดื่มกาแฟจะเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น ทำให้เรารู้สึกอิ่มและไม่มีความอยากอาหาร แต่น้ำตาลในกาแฟจะคงอยู่ในเลือดเป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลงก็จะรู้สึกอยากกาแฟอีกจนอาจนำไปสู่การติดกาแฟได้
– ขับปัสสาวะ เวลาเช้าเป็นเวลาที่ร่างกายไม่ได้รับน้ำมาตลอดทั้งคืน แถมคาเฟอีนในกาแฟยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อาจทำให้ปัสสาวะบ่อย จนเกิดอาการขาดน้ำได้ โชคยังดีที่คอกาแฟหรือผู้ที่ดื่มกาแฟติดต่อกันเกิน 5 วัน ร่างกายจะต้านฤทธิ์ขับปัสสาวะอันนี้ คอกาแฟจึงมักไม่ขาดน้ำแม้ดื่มกาแฟในตอนเช้า
2. ดื่มกาแฟหลังอาหาร 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟสามารถขัดขวางการดูดซึมสารอาหารบางอย่าง เช่น แคลเซียม สังกะสี และธาตุเหล็ก อาจทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และโลหิตจางได้ การดื่มกาแฟที่ถูกต้อง คือ ดื่มหลังจากรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 1 ชม. เพราะเป็นเวลาที่ร่างกายดูดซึมสารอาหารไปบ้างแล้ว
3. ไม่ดื่มกาแฟติดต่อกันทุก 4-6 ชั่วโมง
เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 6 ชั่วโมง การดื่มกาแฟติดต่อกันโดยที่ร่างกายยังขับคาเฟอีนออกมาไม่หมด จะทำให้ระดับคาเฟอีนในเลือดคงที่ และก่อให้เกิดอาการติดกาแฟได้
ทำครบ 3 เคล็ดลับนี้ นอกจากคุณจะได้ดื่มกาแฟที่คุณชื่นชอบแล้ว ยังถนอมร่างกายของคุณให้สุขภาพดี แถมร่างไม่พังเร็วเกินไปอีกด้วย